Posted on: August 8, 2020 Posted by: Lily Morgan Comments: 0

เกร็ดความรู้ ! ก่อนเการเลือกทำบิ้วอิน

บิ้วอิน (Built in) คือ เฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่งที่มีการออกแบบให้มีขนาดเหมาะสมลงตัวกับพื้นที่ที่จะติดตั้ง มีการจัดวางให้พอดีกับห้องหรือในบริเวณที่ต้องการ โดยสามารถที่จะสั่งทำกับทางบริษัทรับทำบิ้วอิน เพื่อต้องการให้มีรูปแบบเฉพาะได้ ตามดีไซน์ที่คุณชอบ อาจจะเป็นการทำขึ้นที่หน้างานหรือทำขึ้นจากโรงงานแล้วนำมาประกอบที่หน้างานก็ได้ ซึ่งไม่สามารถยกออกหรือเคลื่อนย้ายได้ หากจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนย้าย จะต้องรื้อเพียงอย่างเดียว   ขั้นตอนเตรียมการสั่งทำบิ้วอิน  การออกแบบ  การสร้างสรรค์ใช้องค์ประกอบของทฤษฎีต่างๆ ในการออกแบบฟังก์ชัน อาจเป็นแนวโมเดิร์น วินเทจ หรือคันทรี่ เพื่อสนองความต้องการในการดำรงชีวิตประจำวันให้มีความสะดวกสบายขึ้น โดยมีการวาง concept และ mood and tone และปรึกษากับช่างผู้มีประสบการณ์หรือบริษัทรับทำบิ้วอิน ว่ามีต้องการแบบไหน เพื่อให้ได้รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ตามที่ต้องการ ให้เกิดความเหมาะสมกับพื้นที่และประโยชน์ใช้สอยของคุณ ซึ่งในส่วน   การเลือกรูปแบบและดีไซน์   การเลือกรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์หรือสไตล์การตกแต่งที่ต้องการ โดยให้ควรให้สอดคล้องกัน เพื่อให้สวยงามและดูสะดวกสบาย ตรงตามความต้องการในเรื่องของดีไซน์ ขนาด วัสดุ และฟังก์ชันการใช้งาน ควรให้มีความแข็งแรงทนทาน เพราะตัวเฟอร์นิเจอร์ถูกยึดติดตายกับโครงสร้างของห้อง   การเตรียมพื้นที่   การเตรียมพื้นที่เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราวางเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินได้เป็นที่เป็นทางมากยิ่งขึ้น ควรจะเลือกบริษัทรับทำบิ้วอิน ที่มีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ มีช่างที่ชำนาญและมีบริการหลังการขายที่ดี เพื่อเตรียมการสำหรับติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เพื่อสามารถวางแผนต่อไปได้ว่าควรใช้ความกว้างหรือยาวของเฟอร์นิเจอร์เท่าไหร่ที่พอเหมาะพอดี  การเตรียมงบประมาณ  เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการประมาณงบที่ดีกับงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินที่ต้องการทำ จะช่วยทำให้งบไม่บานปลาย โดยอาจลองพูดคุยกับช่างผู้มีประสบการณ์หรือบริษัทรับทำบิ้วอินโดยตรงว่าเขามีการประเมินราคาอย่างไรเพราะอาจทำให้การเลือกใช้วัสดุบางตัวเหมาะสมกับงบประมาณที่คุณมีด้วย  อย่างไรก็ตาม การทำบิ้วอินจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญ กับการออกแบบฟังก์ชันการใช้งาน ที่สะท้อนตัวตนของเจ้าของได้เป็นอย่างดี โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีคววามชอบความแตกต่างที่ไม่ซ้ำใคร  

Posted on: August 1, 2020 Posted by: Lily Morgan Comments: 0

ข้อมูลควรรู้ก่อนเลือกซื้อประกันรถยนต์

ในการทำธุรกรรมต่างๆ จำเป็นต้องมีความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้ได้มาซึ่งธุรกรรมที่ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการของเรา โดยเฉพาะธุรกรรมที่ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล มีความเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินและการเงิน เพราะต้องการความปลอดภัยและต้องอาศัยความรอบคอบก่อนที่จะตกลงทำธุรกรรมนั้นๆ หนึ่งในธุรกรรมที่จำเป็นต้องมีข้อมูลที่ดีก่อนจะไว้ใจให้ใครดูแล นั่นคือธุรกรรมการทำประกันรถยนต์นั่นเอง การเช็คประกันรถยนต์ให้ทราบข้อมูลว่ามีอะไรให้เลือกซื้อบ้าง หรือเราเหมาะสมกับการซื้อประกันรถยนต์แบบใดนั้นจึงสำคัญอย่างมาก  หากเกิดคำถามขึ้นมาว่า เช็คประกันรถยนต์ ได้ที่ไหน หรือเริ่มอย่างไร การเช็คประกันรถยนต์ควรเริ่มจากรู้ข้อมูลก่อนว่าประกันรถยนต์นั้นมีแบบใดบ้าง ประกันรถยนต์ที่เราต้องเลือกซื้อหาคือประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ แบ่งออกเป็นหลายชั้นด้วยกัน ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น1 เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งจ่ายค่าเสียหายต่อตัวรถของผู้เอาประกันและคู่กรณี ครอบคลุมเรื่องของการถูกโจรกรรมรถ น้ำท่วม ไฟไหม้ รวมไปถึงอุบัติเหตุที่ระบุคู่กรณีไม่ได้ เช่น รถชนเสา เป็นต้น   ประกันภัยรถยนต์ ชั้น2+ ครอบคลุมเหมือนประกันชั้น 1 ต่างกันตรงที่จะไม่ชดเชยค่าเสียหายจากกรณีที่ระบุคู่กรณีไม่ได้ แต่ยังให้ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้หรือน้ำท่วม ในขณะที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น2 จะไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของผู้เอาประกัน จะชดเชยแค่รถของคู่กรณี รวมถึงเหตุไฟไหม้ น้ำท่วมและการถูกโจรกรรม   ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ จะจ่ายค่าเสียให้ทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี แต่เฉพาะกรณีที่ระบุคู่กรณีได้คือเป็นการชนระหว่างรถยนต์เท่านั้น ไม่ครอบคลุมเหตุไฟไหม้หรือรถถูกโจรกรรม ส่วนประกันภัยชั้น 3 จะต่างกับประกันชั้น 3+ คือจ่ายแค่ค่าเสียหายของรถคู่กรณีเท่านั้น  หากต้องการเช็คประกันรถยนต์ว่าเหมาะกับเราหรือไม่ คือดูที่ความต้องการให้คุ้มครอง หากต้องการความคุ้มครองที่มาก ก็ควรเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่หากเช็คประกันรถยนต์แล้วไม่ต้องการความคุ้มครองที่เกินจำเป็น ประกันชั้นรองลงมาอาจเหมาะกับคุณมากกว่า 

Posted on: August 1, 2020 Posted by: Lily Morgan Comments: 0

ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างรายได้ดีจริงหรือ

การขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อรับจ้างหรือขับวินมอเตอร์ไซค์ทั่วไปนั้นเป็นที่นิยมกันมากเห็นได้จากการที่มีวินมอเตอร์ไซค์หรือรถรับจ้างมากมาย อีกทั้งยังมีเหตุการณ์แย่งลูกค้ากันเกิดขึ้นตามข่าวที่เราได้พบเจอนั้นจึงเกิดคำถามว่าตกลงแล้วการขับรถพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อรับจ้างหรือวินมอเตอร์ไซค์นั้นแท้จริงแล้วรายได้ดีจริงหรอ ทำไมถึงมีเหตุการณ์แย่งลูกค้ากันเกิดขึ้น ซึ่งจากผลการสำรวจหลาย ๆ ที่นั้นพบว่า       วินมอเตอร์ไซค์นั้นสามารถทำรายได้เฉลี่ยหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือตกวันละ 900 – 1,500 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจุดทำเลที่ให้บริการ ว่าเป็นจุดที่มีลูกค้าสัญจรไปมามากน้อยแค่ไหน   ข้อดีของการขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง  เรามาดูข้อดีของการขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างทั้งแบบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อรับจ้างและวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างกันว่ามีข้อดีอะไรบ้าง  สำหรับข้อดีของการขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อรับจ้าง คือรถประเภทนี้มีเบาะนั่งด้านหลังสามารถรับผู้โดยสารได้หลายคน ทำให้สามารถขับเป็นรถรับจ้างเป็นเที่ยวต่อเที่ยววนไปหรือขับรับจ้างแบบเหมาส่งได้ และที่สำคัญเลยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อรับจ้างนั้นประหยัดน้ำมันกว่ารถวินมอเตอร์ไซค์ทั่วไป แต่ก็มีข้อจำกัดคือระยะทางในการขับรับส่งอาจสามารถทำให้แค่ในระยะใกล้ ๆ เท่านั้นเพราะในการชาร์จไฟฟ้าแต่ละรอบก็จะสามารถวิ่งได้ในระยะไม่เกินกิโลเมตรที่กำหนดไว้  ส่วนข้อดีของการขับวินมอเตอร์ไซค์หลักๆเลยก็คือสามารถสร้างรายได้ให้กับคนขับได้ซึ่งสามารถยึดเป็นอาชีพประจำหรือมาขับช่วงหลังเลิกงานหรือขับเสาร์อาทิตย์เพื่อทำเป็นอาชีพเสริมได้ โดยรายได้ก็จะขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นสามารถวิ่งรถได้จำนวนเที่ยวมากน้อยแค่ไหน และการขับวินมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ต้องมีปัญหาในเรื่องของรถติดเหมือนกับการขับแทกซี่อีกด้วย แต่ถึงแม้จะมีข้อดีแต่ก็ยังมีข้อเสียในเรื่องของความปลอดภัย และยิ่งถ้าฤดูฝนนอกจากจะมีลูกค้ามาใช้บริการน้อยลงแล้วก็ยังต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย  เห็นได้ว่าทั้งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อรับจ้างหรือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ล้วนแล้วแต่มีข้อดีในแบบของตัวเอง และเมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียหรือข้อจำกัดในตัวเช่นกัน ดังนั้นหากใครสนใจที่จะทำอาชีพเหล่านี้ไม่เพียงแต่แค่มองรายได้เป็นตัวเงินเท่านั้นแต่ต้องศึกษารายละเอียดให้ดี ให้ชัดเจนก่อนเพื่อเห็นถึงรายละเอียดที่ลึกซึ้งลงไปก่อนทำการตัดสินใจทำอาชีพนี้ 

Posted on: August 1, 2020 Posted by: Lily Morgan Comments: 0

เลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้า กทม ต้องเลือกซื้ออย่างไร?

สำหรับคนกรุงเทพที่กำลังมองหาบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก มีให้สรรหลายแบบหลายสไตล์แล้วแต่ความชอบ พร้อมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีให้เลือกอีกมากมาย แถมเจ้าที่ขายก็เชื่อถือได้ แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าใน กทม. อย่างไรถึงจะได้ของดี ตรงปก ไม่จกตา วันนี้ Siampods ของเรามีข้อมูลสำหรับเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าใน กทม. มาฝากให้คุณแน่นอน  วิธี เลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าใน กทม. อย่างไรให้ได้ของตรงสเปค  ร้านที่มีตัวตนจริงๆ  ร้านที่มีตัวตนจริงๆ ก็คือ ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีเจ้าของร้าน มีบุหรี่ไฟฟ้าจริงๆ มีหลายแบบให้เลือก บางทีร้านในโลกอินเตอร์เน็ตรูปภาพสวย ดูดี ราคาถูกก็จริง แต่ไม่มีร้านอยู่จริงๆ เอารูปจากเจ้าอื่นมา เพื่อเป็นการหลอกลวงแบบนี้ไม่ดีแน่ ทางที่ดีแนะนำให้เลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากับร้านที่มีทั้งร้านออนไลน์ และมีหน้าร้าน หรือมีตัวตนจริงๆ บางทีเราอยากจะดูของเจ้าของร้านก็นัดเอาของมาดูก็ได้ เพื่อลดปัญหาการโดนหลอกนั่นเอง  เจ้าของแนะนำ  หากคุณไปเจอร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าที่เจ้าของร้านไม่ค่อยต้อนรับคุณสักเท่าไหร่ ไม่แนะนำบุหรี่ไฟฟ้าดีๆให้คุณสักเครื่อง แบบนี้คุณจะอยากซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากับเขาไหม? ถ้าหากเป็นร้านที่เจ้าของร้านอัธยาศัยดี ถามตอบสุภาพ แถมยังแนะนำสินค้าให้คุณ อันนี้คงจะดีกว่าแน่นอน เพราะนอกจากคุณจะเป็นลูกค้าของเขาแล้ว คุณอาจจะได้เพื่อนที่เชี่ยวชาญเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าคอยแนะนำให้คุณก็เป็นได้   ร้านบุหรี่ไฟฟ้า กทม ที่หลายคนรีวิว  ของอย่างนี้ถ้ามีใครสักคนที่รีวิวว่า ร้านนี้เจ้าของขายบุหรี่ไฟฟ้านิสัยดี แนะนำ เป็นใครก็อยากซื้อสินค้ากับเขาใช่ไหมละ เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อบุหรี่ไฟฟ้าสักตัว แนะนำให้หารีวิวอ่านก่อนว่าบุหรี่ไฟฟ้า กทม เจ้าไหน หรือลองเข้าไปดูในสังคมคนชอบบุหรี่ไฟฟ้า เดี๋ยวพวกเขาก็แนะนำร้านดี ร้านเด็ดมาให้คุณเอง  ราคาย่อมเยาว์  ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี แต่ก็อยากสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ แนะนำให้เลือกเจ้าที่ขายในราคาที่ย่อมเยาว์เข้าไว้ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของคุณไป โดยแนะนำว่าให้ราคาถูกทั้งตัวที่เป็นบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า   เลือก Siampobs สิ  หากคุณยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเจ้าไหนดี เจ้าไหนราคาถูก คุณไม่ต้องไปหาที่ไหนแล้ว เพียงแค่คุณเข้ามาที่เว็บไซต์ของ Siampods เว็บขายบุหรี่ไฟฟ้า…

Posted on: June 4, 2020 Posted by: Lily Morgan Comments: 0

ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์การเลือกที่พัก

  การท่องเที่ยวไม่ใช่มีเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวอาหารการกินเท่านั้นที่มีความสำคัญ แต่ที่พักก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่หลายๆคน ต้องพิจารณากันให้ดีเลยล่ะ เพราะสิ่งนี้มีผลกระทบต่อหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเงินในกระเป๋า หรือสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทางนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้นอกจากที่เราจะเลือกพักในโรงแรมแล้วเรายังสามารถเลือกพักในโฮสเทล ซึ่งถือว่า เป็นที่พักที่กำลังมาแรงในยุคนี้เลยล่ะ ใครที่กำลังเลือกระหว่างจะพักโรงแรมหรือโฮสเทลสำหรับทริปถัดไปของคุณเราไปดูกันว่า เหตุผลใดทำไมคุณควรเลือก Hostel  ประหยัดเงินในกระเป๋า การจัดงบประมาณในการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญ สิ่งที่หลายคนเห็นเป็นเสียงเดียวกันและมันเป็นความจริงก็คือการพักโฮสเทลช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าที่เราจะเอาไปจ่ายโรงแรมได้ถึงครึ่งนึง พูดง่ายๆว่า ค่าเช่าห้องในโฮสเทล แบบถูกและดีมีถมไป ราคาเริ่มต้นตั้งแต่  400-500 บาท ก็อยู่ได้แบบสบายๆหรือใครจะเอาดีหน่อยแบบไปกันหลายคน พักห้องแบบสตูดิโอก็ราคาพันต้นๆต่อคืน หารกันสองสามคน ถือว่าถูกเลยล่ะ  โฮสเทลคือ Society โรคที่จะทำให้คุณรู้จักเพื่อนใหม่ได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นในห้องพักหรือสถานที่นั่งเล่นต่างๆในโฮสเทล ไม่น่าแปลกใจเลยที่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแบ็คแพ็คเกอร์ทั้งหลายเลือกใช้โฮสเทลมากกว่าใช้โรงแรม เพราะบรรยากาศสบายๆในแบบของโฮสเทลทำให้เรามีสังคมใหม่ๆเกิดขึ้นทำความรู้จักเพื่อนใหม่ได้ง่ายขึ้น ยิ่งคนรักการท่องเที่ยวในสถานที่เดียวกัน ยิ่งเป็นการดีเลยล่ะรับรองว่าคุยกันถูกคอเผลอคุณจะมีเพื่อนร่วมทริปดีๆ เพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัว  ฝึกการดูแลตัวเอง Hostel เป็นที่พักสไตล์ที่คุณต้อง  Take care yourself  แน่นอนว่าไม่มีพนักงานหรือ Body ก่อนมาค่อยเดินเสิร์ฟอาหารเหมือนในโรงแรมแต่คุณจะต้องดูแลอาหารเช้าเองจากในครัวที่มีข้าวของเครื่องใช้วางเอาไว้ให้อย่างเป็นระเบียบ การจัดแจงเวลาและสถานที่เรื่องการท่องเที่ยวการเดินทางและการพักผ่อนในแต่ละครั้ง สิ่งต่างๆเหล่านี้จะช่วยให้คุณฝึกประสบการณ์การดูแลตัวเองการวางแผน แล้วคุณจะรักการท่องเที่ยวแบบมีอิสระขนาดนี้เพิ่มขึ้นอีกมากเลยล่ะ  เที่ยวแบบไร้แผนการได้เต็มที่ ข้อดีของการพักโฮสเทลคืออิสระในการพักผ่อนแบบไร้ขีดจำกัดและไร้พรมแดน โดยเฉพาะใครที่ชอบเดินทางคนเดียวการจะไปไหนทำอะไรหรือไม่ทำอะไรเปลี่ยนแผนท่องเที่ยวแบบปุบปับกระทันหันสามารถทำได้เต็มที่ที่สำคัญคือ ส่วนมากแล้ว Hostel มักจะตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนหรือใกล้ตลาดร้านรวงต่างๆรวมไปถึงแหล่งช้อปปิ้งและ Landmark สำคัญในการท่องเที่ยวประจำจังหวัดนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ตาม ความสะดวกของการท่องเที่ยวและการเดินทางจากการพัก Hostel  บางทีมีมากกว่าพักโรงแรมซะอีก 

Posted on: May 2, 2020 Posted by: Lily Morgan Comments: 0

วัยรุ่นยุคใหม่กับการใช้โซเชียลแอคเคาท์เดียวมันน้อยไป

เมื่อก่อนคงต้องพูดถึงเรื่องการใช้โซเชียลของเด็กญี่ปุ่นว่ามีความแตกต่างกับบ้านเรา แต่ในยุคนี้ต้องบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจะกลืนเข้ากันเป็นเรื้อเดียว พูดถึงในประเทศญี่ปุ่น ก็ยังคงมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่แตกต่างจากวัยรุ่นไทย โซเชียลมีเดียหลักที่ใช้คือ Twitter และ Instagram ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นจากความนิยมต่างๆเหล่านี้ก็ได้มีการทำการสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ Social Media ของวัยรุ่นญี่ปุ่นมีสิ่งที่น่าสนใจจากการทำการสำรวจในครั้งนี้คือส่วนใหญ่และวัยรุ่นญี่ปุ่นมักจะมีบัญชีการใช้งาน Social Media ต่างๆเหล่านี้มากกว่าหนึ่งบัญชี และสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือวัยรุ่นเป็นจำนวนมากที่มีบัญชีสำหรับการใช้งานเป็นบัญชีรอง มากถึง 10 บัญชีด้วยกันมาถึงตรงนี้ใครหลายคนอาจจะอยากรู้แล้วว่าทำไมวัยรุ่นญี่ปุ่นจึงมีบัญชีรองในการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆมากมายขนาดนี้  การใช้บัญชีรองมากมายถึง 10 บัญชีหรือการใช้งาน Social Media อย่างลับลับเป็นสิ่งที่เด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นทุกคนต้องมีเพราะคนที่โรงเรียนหรือคนที่ทำงานร่วมถึงคนที่บ้านจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจ้าของบัญชีคือใครดังนั้นบัญชีรอง ซึ่งเป็นบัญชีของการใช้โซเชียลแบบไม่เปิดเผยตัวตนนั่นเองและจากการสำรวจของบริษัททางด้านความปลอดภัยในข้อมูลพบว่า 70% ของนักเรียนหญิงมัธยมปลายมีบัญชีรับเป็นของตัวเองและวัตถุประสงค์ในการใช้งานก็เก็บไว้ใช้ในวัตถุประสงค์การใช้งานหลักๆคือใช้ในการติดตามผลงานของศิลปินดารารวมไปถึง Animation หรือคนที่มีความชื่นชอบในแบบเดียวกันรวมทั้งใช้เพื่อคอมเม้นต่างๆใน Social Media โดยที่ไม่ต้องมีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงและยังเป็นการสร้างตัวตนหรอกๆขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนจริงของพวกเขานั้นเอง นอกจากนี้แล้ว  จากการสำรวจยังพบอีกว่าวัยรุ่นญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้โซเชียล ที่เป็นบัญชีรองในการบ่นและระบายอารมณ์กับเรื่องราวต่างๆที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดและต้องประสบพบเจอในแต่ละวันเพราะไม่อย่างนั้นแล้วคงจะต้องรู้สึกอัดอั้นตันใจที่ไม่ได้ระบายออกอย่างแน่นอนดังนั้นการใช้บัญชีรองจึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้วัยรุ่นญี่ปุ่นสามารถระบายความเครียดเพราะไม่มีใครสามารถตามตัวได้และที่สำคัญคือหลังจากที่หายเครียดหรือระบายอารมณ์แล้วก็สามารถลบบัญชีนั้นทิ้งได้ง่ายๆอีกด้วย วิถีชีวิตที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของคนญี่ปุ่นซึ่งจะเรียกว่าเป็นค่านิยมก็คงจะไม่ผิดนั่นก็คือชาวญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่แคร์ความคิดความรู้สึกของคนรอบตัวมากๆดังนั้นเพื่อให้ได้รับการยอมรับหลายคนจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างตัวตนอีกตัวตนหนึ่งขึ้นมาให้คนได้รู้จักและได้เห็นในมุมที่ตัวเองต้องการให้เห็นและไม่ต้องการให้เห็นแต่ทุกคนก็ยังคงต้องการพื้นที่ความเป็นส่วนตัวเหตุผลต่างๆเหล่านี้จึงกลายเป็นที่มาของการใช้ชีวิตติดโซเชียลแบบที่ต้องมีบัญชีในการเล่นมากมายนั่นเอง

Posted on: April 4, 2020 Posted by: Lily Morgan Comments: 0

เลี้ยงลูกให้ถูกทางในยุคโซเชียล

ในยุคที่มีความเจริญในเรื่องเทนโนโลยีต่างๆ แบบนี้ ทำให้มีข้อดีต่อการดำเนนชีวิตมากมาย แต่เอมีดีก็ต้อมีร้าย เมื่อความทันสมัยที่เราเรียกว่าเทคโนโลยี ก็กำลังทำลายบางสิ่งบางอย่างไปโดยที่บางทีเราก็ไม่รู้ตัว การมีเทคโนโลยีและความทันสมัยทางด้านเครื่องมือสื่อสาร รวมไปถึงความล้ำหน้าทางด้านนวัตกรรมต่างๆเป็นข้อดีที่ทําให้สังคมและโลกของเราเจริญขึ้นแต่สิ่งหนึ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้คือความเจริญย่อมมาพร้อมกับความเสื่อมเมื่อเทคโนโลยีเจริญขึ้นแต่อีกมุมหนึ่งกลับเสื่อมลงคงไม่ต้องบอกหลายคนก็คงจะเดาได้ว่าสิ่งที่เสื่อมโทรมลงไป คือสังคมของเรานั่นเอง ความเสื่อมโทรมในยุคนี้คือ การที่เราใช้มือถือกันมากขึ้นจนหลายคนเรียกว่าสังคมก้มหน้าเราให้ความสำคัญกับโลกออนไลน์มากกว่าการที่จะได้พบปะพูดคุยและเปลี่ยนบทสนทนาและถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันแม้กระทั่งบนโต๊ะอาหารในบ้านที่พ่อแม่ลูกควรจะได้พูดคุยกันอย่างมีความสุข แต่ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือลูกกลับก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือและอยู่ในสังคมของตนเองหรืองานที่กำลังทำไม่ว่าจะเป็นการติดต่อลูกค้าหรือจะสั่งงานผ่านทางโทรศัพท์มือถือนั่นเองทำให้ในปัจจุบันนี้มีปัญหาหนึ่งเกิดขึ้นในสังคมนั้นก็คือปัญหาการแยกตัวจากสังคมนั่นเอง การดำเนินชีวิตเพื่อห่างไกลการแยกตัวจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตของเราเองในวัยผู้ใหญ่หรือการเลี้ยงดูพ่อแม่รวมไปถึงพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างเกราะกำบังปัญหาต่างๆเหล่านี้ให้กับคนที่เรารักหรือแม้กระทั่งตัวเราเองก็ตามซึ่งในวิถีชีวิตหรือและสไตล์ของเราเรามีสิ่งที่จะต้องปรับทัศนคติของเราในเรื่องต่างๆดังนี้ สร้างความแข็งแกร่งในจิตใจให้กับคนที่เรารักด้วยการทำความเข้าใจทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตรวมไปถึงให้ความรักความอบอุ่นและสัมผัสกันด้วยการโอบกอดอยู่เสมอเพราะนี่คือเป็นสิ่งที่จะสร้างพลังใจให้ใครคนใดคนหนึ่งเข้มแข็งขึ้นมาได้ ถ้าหากคุณเป็นคนที่จะต้องเลี้ยงดูลูกน้อยให้พาลูกของคุณไปเล่นที่สนามเด็กเล่นหรือไปเจอเพื่อนในวัยเดียวกันในสังคมใดสังคมหนึ่งซึ่งการที่ลูกน้อยได้เจอสังคมเขาจะรักความรู้สึกสนุกสนานที่ได้เจอเพื่อนฝูง ทำให้ไม่รู้สึกแปลกแยกและปรับตัวเข้ากับสังคมได้ง่าย ไม่คาดหวังหรือกดดันลูกให้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการเช่นคาดหวังกับผลการสอบของลูกหรือส่งลูกไปเรียนกวดวิชาจนเยอะแยะมากมายเกินไปเพราะอยากให้ลูกสอบติดในโรงเรียนที่ดีหรือคณะดีๆรวมทั้ง คาดหวังให้ลูกทำอาชีพที่พ่อแม่ต้องการเพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้อาจจะทำให้ลูกของคุณเกิดความรู้สึกอึดอัดและกดดันจนไม่อยากจะพบเจอใครในสังคมรวมกระทั่งตัวพ่อแม่เอง ปลูกฝังทัศนคติที่ดีและการมองโลกในทิศทางบวกเสมอให้กับลูกและคนในครอบครัวฝึกนิสัยการยอมรับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นจริงได้ในชีวิตของเราแล้วไม่กล่าวโทษไม่กดดันในกรณีที่มีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวเป็นต้น